ทำไมช่างภาพมือโปร และสายวิดีโอ จำนวนมาก จึงบอกว่านี่คืออุปกรณ์ TOP 5 ที่ต้องมีติดกระเป๋ากล้องไว้เสมอ รู้จักและเข้าใจฟิลเตอร์ ND แต่ละชนิด เลือกซื้อไม่ผิดแน่นอน
ฟิลเตอร์ที่ใช้ลดปริมาณแสงในการถ่ายภาพ หรือเรียกกันสั้นๆ ว่าฟิลเตอร์ ND มีอยุ่หลายแบบ เรียกว่าเยอะจนคนที่เพิ่งหาข้อมูลเพื่อซื้อเจ้าฟิลเตอร์ชนิดนี้ไปใช้งาน ถึงกับงงกันไปไม่น้อยเลยทีเดียว ในคู่มือการเลือกซื้อนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างฟิลเตอร์ ND แต่ละแบบในตลาด รวมทั้งแจกแจงให้ว่า สถานการณ์ไหนช่างภาพควรใช้แบบไหนจึงจะดีที่สุด
ND หรือมาจากชื่อเต็มว่า Neutral Density filter คือชิ้นเลนส์ที่นำมาบังหน้าเลนส์ทำหน้าที่กรองหรือบล็อกปริมาณแสงที่จะเข้าสู่กล้องถ่ายภาพของคุณ ทำไมคุณต้องกรองแสงหรือบล็อกแสง? มันมีประโยชน์เมื่อคุณต้องการลดปริมาณแสงให้เบาลง คุณจะได้ใช้ความไวชัตเตอร์ที่ช้าลงเพื่อเอฟเฟ็คต์แบบโมชั่นเบลอ หรือไม่ก็เปิดรูรับแสงให้กว้างขึ้นเพื่อให้มีระยะชัดตื้นมากขึ้น แนวหน้าชัด หลังเบลอ ฯลฯ ได้ในสภาพแสงที่สว่างมากหรือสว่างจ้า หรือไม่ก็ใช้เพื่อสร้างเอฟเฟ็คต์ที่ดูเป็นแนว Cinematic มากขึ้นเมื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือถ่ายภาพยนต์ เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอฟเฟ็คต์ที่พูดถึงเหล่านี้ในคู่มือนี้กัน
** ภาพประกอบในคู่มือนี้ทั้งหมด ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND ของ URTH คุณสามารถดูช่องทางการติดต่อซื้อฟิลเตอร์เอิร์ธได้ในช่วงท้ายของคู่มือนี้
คุณยังเป็นมือใหม่ หรือเป็นผู้ใช้งานฟิลเตอร์ ND ระดับเริ่มต้นใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ติดตามคู่นี้เพื่อเข้าใจเบสิกของฟิลเตอร์ชนิดนี้กัน
ฟิลเตอร์ ND แบบค่าเดียว หรือ Fixed ND กับแบบปรับได้หลายค่า หรือ Variable ND มีอะไรแตกต่างกัน
มีฟิลเตอร์ ND อยู่ 2 แบบ คือ แบบค่าเดียว หรือ Fixed กับแบบปรับได้หลายค่า หรือ Variable ND
แบบค่าเดียวคือ ฟิลเตอร์จะตัดลดแสงที่จะเข้าสู่กล้องได้ระดับเดียว หรือ f stop เดียว ในขณะที่ Variable ND จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยจะมีช่วงกว้างในการปรับแสงให้อ่อนหรือเข้มได้ในตัวเดียวกัน ด้วยวิธีการหมุนขอบนอกของตัวฟิลเตอร์ คุณสามารถกำหนดระดับแสงที่เข้าสู่กล้องได้ตามความต้องการ
ถ้าคุณเคยเริ่มต้นใช้งานฟิลเตอร์ ND แบบค่าเดียว และพบว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากมายจริงๆ แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองให้ Variable ND ที่คุณจะได้ความยืดหยุ่นในการใช้งานเพิ่มขึ้นมากในการใช้งานฟิลเตอร์ประเภท ND
ซ้าย ฟิลเตอร์ ND แบบ Fixed ขวามือ ฟิลเตอร์ ND แบบ Variable
ตัวเลขของฟิลเตอร์ ND บอกอะไรบ้าง
ตัวเลขที่ตัวฟิลเตอร์ ND ยิ่งสูง แปลว่า แสงที่เข้าสู่เลนส์และกล้อง จะยิ่งมีปริมาณน้อยลง
ตัวอย่างเช่น ฟิลเตอร์เบอร์ ND2 จะกรองหรือกั้นแสงไว้ 50% เมื่อเทียบกับการไม่ใส่ฟิลเตอร์ ND และฟิลเตอร์เบอร์ ND4 ก็จะกรองหรือกั้นแสงเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่งคือแสดงจะเข้าสู่เลนส์และกล้องได้ 25% เมื่อเทียบกับไม่ใส่ฟิลเตอร์ ND ทุกๆ ครั้งที่เลขบอกค่าของ ND เพิ่มขึ้น 1 เท่า ก็คือแสงจะผ่านได้น้อยลง 50% ซึ่งก็คือแสงจะเข้าสู่กล้องลดลงครั้งละ 1 สต็อปนั่นเอง
ลองดูในชาร์ตระบุค่า ND ด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นในเรื่องค่าตัวเลขของฟิลเตอร์ ND, ในเรื่อง f stop ที่เปลี่ยนไปตามค่าเบอร์ของฟิลเตอร์ ND และจำนวนของแสงที่ผ่านเข้าสู่เลนส์กล้องของคุณ
ซ้าย ไม่ใช้ฟิลเตอร์ กลาง ใช้ฟิลเตอร์ ND2 ขวา ใช้ฟิลเตอร์ ND4
ชาร์ตรายละเอียดฟิลเตอร์ ND
ใช้ชาร์ตด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจการลดและผ่านของแสงอันเป็นผลมาจากการใช้ฟิลเตอร์ ND แบบต่างๆ
ฟิลเตอร์ ND ที่ความเข้มเบอร์อะไรดีที่ฉันควรซื้อ?
ด้านล่างนี้เราจะอธิบายจุดประสงค์การใช้งานเบื้องต้นของฟิลเตอร์ ND แต่ละเบอร์ และสถานการณ์ของแสงที่ฟิลเตอร์แต่ละเบอร์ใช้งานได้ดีที่สุด – แต่โปรดระลึกไว้เสมอว่า การใช้งานจริงก็สามารถยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์และเงื่อนไขต่างๆ ตัวอย่างเช่น ฟิลเตอร์ ND8 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาพที่มีแสงน้อย คุณสามารถที่จะใช้กับเวลาที่มีแสงแรงมากได้เช่นกันถ้าคุณแค่ต้องการลดแสงลงเพียง 3 สต็อปเท่านั้น มันขึ้นอยู่กับผลที่คุณต้องการได้มากกว่า รายละเอียดอื่นๆ เรามาดูกันต่อไป
ถ่ายในที่แสงน้อย ใช้ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND8, ND16
ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND8 และ ND16 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย ลองคิดถึงช่วงเช้าตรู่, วันที่มีพายุเข้า, ในป่าลึก, ในช่วงตอนเย็น หรือ ถ่ายในที่ร่ม
ซ้าย ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND4 กลาง ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND8 ขวา ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND16
ในที่แสงน้อย คุณจำเป็นต้องใช้รูรับแสงที่กว้างขึ้น และ/หรือ ความไวชัตเตอร์ที่ต่ำลงเพื่อให้แสงเข้าสู่กล้องอย่างเพียงพอ ฟิลเตอร์ ND แบบค่าเดียวแบบนี้ดีที่สุดสำหรับแสงน้อย เพราะมีแสงไม่มากให้ฟิลเตอร์กรองหรือกั้นแสงในสภาพแวดล้อมที่คุณถ่ายภาพอยู่ ดังนั้นคุณต้องการผลการกรองแสงจากฟิลเตอร์ ND แบบกรองได้น้อยก็เพียงพอ
ฟิลเตอร์ ND ในกลุ่มนี้สามารถใช้ในการสร้างภาพแบบโมชั่นเบลอได้ดีขึ้น ในสภาพแสงที่มีน้อยอยู่แล้ว โดยการลดแสงไป 2, 3 หรือ 4 สต็อป ฟิลเตอร์ในกลุ่มนี้ทำให้คุณใช้ความไวชัตเตอร์ที่ต่ำลงได้มากขึ้น โดยไม่ทำให้ภาพได้รับแสงโอเวอร์ เพื่อสร้างภาพแบบโมชั่นเบลอที่สวยงาม
ซ้าย ถ้ายแบบไม่ใช่ฟิลเตอร์ ND ขวา ภาพแบบโมชั่นเบลอ ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND16
คุณอาจจะบอกว่ามีทางเลือกอื่น โดยคุณสามารถปรับลดปริมาณแสงที่ผ่านเข้ากล้องโดยการหรี่รูรับแสงให้แคบลงก็ได้ แต่การทำแบบนี้ก็ทำให้คุณได้ค่าความชัดลึกที่มากขึ้น (ซึ่งบางครั้งถ้าคุณต้องการภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือชัดเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งที่คุณต้องการเน้นเป็นพิเศษ การหรี่รูรับแสงก็ไม่เวิร์คเพราะภาพจะมีระยะชัดเพิ่มขึ้น) คุณสามารถที่จะปรับทั้งความไวชัตเตอร์และและรูรับแสงเพื่อทำให้เกิดเอฟเฟ็คต์ที่ต้องการได้ ตัวอย่างเช่น คุณถ่ายภาพหนึ่ง แล้วชอบระยะชัดลึกของรูรับแสงที่คุณตั้งไว้คือ 2.8 และได้ความไวชัตเตอร์อยู่ที่ 1/30วินาที แต่คุณต้องการภาพที่มีโมชั่นเบลอมากขึ้น โดยไม่ต้องการที่จะให้ระยะชัดลึกที่สวยอยู่แล้วต้องเพิ่มมากขึ้น คือคุณไม่ต้องการหรี่รูรับแสงเป็น 4 หรือ 5.6 แล้วลดความไวชัตเตอร์ลงเป็น 1/15 วินาที หรือ 1/8 วินาที คุณก็สวมฟิลเตอร์ ND4 เข้าไปและตอนนี้คุณก็สามารถลดความไวชัตเตอร์ลงไปได้ 2 สต็อป เพื่อลดความไวชัตเตอร์ลงเป็น 1/8 วินาที โดยที่ไม่ต้องไปปรับค่ารูรับแสงให้แคบลง ปล่อยมันไว้ที่ 2.8 เท่าเดิมที่คุณชอบระยชัดลึกของมัน แต่ได้โมชั่นเบลอมากขึ้นจากความไวชัตเตอร์ที่ต่ำลง
ถ่ายโดยไม่ใช่ฟิลเตอร์ ND แสงสว่างมาก รูรับแสงแคบ ฉากหลังจะชัดมากเกินไป
ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND16 แสงลดลงมาก สามารถเปิดรูรับแสงกว้างขึ้นให้ฉากหลังที่เบลอเล็กน้อย
ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND 8 และ ND16 ยอดเยี่ยมสำหรับถ่ายภาพพอร์ตเทรต
ฟิลเตอร์ ND กลุ่มนี้เหมาะกับแสงน้อย เป็นที่นิยมสำหรับช่างภาพที่ต้องการถ่ายภาพบุคคลหรือพอร์ตเทรตให้ดูดึงดูดสายตามากขึ้นด้วยระยะชัดลึกน้อยลง
ถ่ายโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND
ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND16 จะได้ระยะชัดลึกน้อย ฉากหลังเบลอเล็กน้อยสวยงาม
ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND 8 และ ND16 ยอดเยี่ยมสำหรับถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพยนต์
ในงานถ่ายวิดีโอหรือภาพยนต์ กฎ 180 ดีกรี ได้ถูกนำมาใช้เพื่อความเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติ กฎนี้คือ ความไวชัตเตอร์ของคุณควรจะเป็นสองเท่าของอัตราเฟรมเรทที่คุณใช้ ปกติแล้วถ้าคุณใช้เฟรมเรทที่ 25 เฟรมต่อวินาที หรือที่เรียกกันว่า 25 fps คุณก็ควรใช้ความไวชัตเตอร์ที่ 1/50 วินาที การทำแบบนี้จะทำให้การเคลื่อนไหวของภาพเป็นไปอย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ คุณสามารถใช้ฟิลเตอร์ ND กลุ่มที่ใช้กับแสงน้อยเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับแสงเกินหรือโอเวอร์เมื่อถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างมาก คุณสามารถปรับค่า ISO โดยการลดมันลงเมื่อถ่ายในที่แสงสว่างมาก แต่ว่าฟิลเตอร์ ND ทำให้คุณควบคุมได้มากกว่า และผลที่ได้นั้น ออกมาดีกว่า
ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND 8 และ ND16 ยังใช้งานได้ดีในสภาพแสงที่สว่างมากอีกด้วย
แม้ว่าจะไมได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับแสงจัดจ้า ฟิลเตอร์ ND ในกลุ่มนี้ยังสามารถถูกใช้เพื่อสร้างเอฟเฟ็คต์พิเศษในแสงจ้าได้ด้วย มีช่างภาพแนวภาพยนต์หรือวิดีโอที่ชอบใช้ฟิลเตอร์พวกนี้ในแสงสว่างมาก แต่ช่างภาพนิ่งก็สามารถใช้มันเพื่อเอฟเฟ็คต์แบบโมชั่นเบลอและผลทางระยะชัดลึกได้เช่นเดียวกัน
ฟิลเตอร์ ND ที่มีเบอร์ ND2 – ND16 เหมาะสำหรับการถ่ายประเภทไหนบ้าง
โดยสรุป ฟิลเตอร์ ND2, ND4, ND8 และ ND16 เหมาะมากสำหรับ
- ถ่ายภาพ Landscape ในสภาพแสงน้อย
- ถ่ายภาพแบบ Outdoor ในสภาพแสงน้อย
- ถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว ในสภาพแสงน้อย
- ถ่ายภาพในร่ม
- ถ่ายภาพพอร์ตเทรต
- ถ่ายภาพแนวภาพยนต์หรือถ่ายวิดีโอในสภาพแสงสว่างปกติ
ลดแสงในสภาพแสงที่สว่างปกติ - ฟิลเตอร์ ND32, ND64, ND128
ในแสงที่สว่างปกติ เพื่อให้ภาพของคุณมีค่าการเปิดรับแสงถูกต้อง คุณอาจจะจำเป็นต้องหรี่รูรับแสงลงให้แคบมากขึ้นไปอีก (เช่น f/8 หรือแคบกว่านี้) และ/หรือ เพิ่มความไวชัตเตอร์ให้เร็วขึ้น ในสถานการณ์แสงแบบนี้ ND32, ND64 และ ND128 ล้วนแต่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมเพราะว่ามันสามารถลดแสงให้คุณได้ถึง 5, 6 และ 7 สต็อปเลยทีเดียว ทำให้คุณมีอิสระมากมายในการเลือกค่าการเปิดรับแสงเพื่อให้ได้ระยะชัดลึกที่สวยงามเหมาะสม และลดความเร็วชัตเตอร์ลงได้อีก เพื่อภาพที่ต้องการบางรูปแบบในสภาพแสงที่สว่างปกติทั่วไป
ซ้าย ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND32 กลาง ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND64 ขวา ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND128
ฟิลเตอร์กลุ่มนี้ทำให้คุณยังถ่ายภาพที่ดูมีความเคลื่อนไหวแบบโมชั่นเบลอได้มากขึ้น แม้จะถ่ายในแสงที่สว่างค่อนข้างมาก โดยปกติเวลาแสงสว่างกว่าปกติ แม้ว่าคุณจะลด ISO ลงต่ำจนสุดแล้ว, หรี่รูรับแสงจนแคบมากแล้ว (การหรี่รูรับแสงจนแคบสุดส่วนใหญ่จะให้ผลความคมชัดที่ไม่ดีนักในเลนส์ส่วนใหญ่ ที่รูรับแสงแคบสุดหรือแคบมาก อย่าง f/32 ภาพจะมีระยะชัดลึกเยอะมาก แต่ความคมชัดจะยิ่งน้อยลงในทางเทคนิค ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้รูรับแสงที่แคบสุดที่เลนส์ตัวนั้นๆ มีให้ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ) แต่การลดความไวชัตเตอร์ลงเพื่อให้ภาพดูมีโมชั่นเบลอ ก็ยังทำให้ภาพมีโอกาสแสงเกินหรือโอเวอร์อยู่นั่นเอง ฟิลเตอร์ในกลุ่มใช้งานแสงปกติหรือค่อนข้างมากเหล่านี้ ทำให้คุณลดความไวชัตเตอร์ลงได้โดยไม่ทำให้ภาพโอเวอร์ เพื่อสร้างภาพแบบโมชั่นเบลอที่สวยงามตามที่คุณต้องการ
ซ้าย ถ่ายโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ ขวา ถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์ ND32
สมมติว่าในวันที่แสงอาทิตย์สว่างใสมาก และคุณอยากจะถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบที่มีระยะชัดลึกน้อย หรือเรียกให้เข้าใจง่ายว่าภาพหน้าชัดหลังเบลอ เพื่อให้มีฉากหลังเบลอหรือไม่ก็ให้เห็นเอฟเฟ็คต์โบเก้ ถ้าจะทำอย่างนั้น คุณต้องใช้รูรับแสงกว้าง ซึ่งหมายความว่าคุณจำเป็นต้องชดเชยด้วยการตั้งความไวชัตเตอร์ให้มากขึ้นเยอะๆ เพื่อไม่ให้ภาพโอเวอร์ แต่กล้องของคุณบางรุ่นอาจจะให้ความไวชัตเตอร์สูงสุดได้เพียง 1/2000 วินาที คราวนี้ ND64 ที่ลดแสงได้ 6 สต็อป จะช่วยให้รูรับแสงของคุณเปิดกว้างขึ้น เช่นเปิดที่ f/1.4 โดยไม่ให้ภาพโอเวอร์ ดังนั้นคุณอาจจะสามารถถ่ายได้ด้วยค่า ISO 100, f/1.4 และ ความไวชัตเตอร์ที่ 1/1000 วินาที โดยใช้ฟิลเตอร์ ND64 และได้ภาพที่มีโบเก้สวยงามได้
ซ้าย ถ่ายโดยไม่ใช่ฟิลเตอร์ ND ขวา ถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์ ND128 ในสภาพแสงจ้ามาก
ฟิลเตอร์ ND32, ND64, ND128 ยอดเยี่ยมสำหรับภาพ Landscape
ฟิลเตอร์ ND เบอร์สูงสำหรับลดแสงมาก เป็นที่นิยมกันในการถ่ายภาพ Landscape, outdoor และภาพแนวท่องเที่ยวที่ต้องปกติถ่ายภาพอยู่ในแสงสว่างมากอยู่เสมอ ด้วยคุณสมบัติในการลดปริมาณแสงที่สว่างมาก, สร้างระยะชัดลึกน้อย หรือ สร้างเอฟเฟ็คต์โมชั่นเบลอได้ในสภาวะที่แสงดีฟ้าใส, ฟิลเตอร์ ND ทำให้ช่างภาพแลนด์สเคปมีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกช่วงการเปิดรับแสง ซึ่งนั่นหมายถึงมีทางเลือกมากขึ้นในการถ่ายภาพแลนสเคปได้อย่างสวยงาม
ภาพแบบโมชั่นเบลอที่ถ่ายในแสงจัดจ้า ด้วยฟิลเตอร์ ND64
ฟิลเตอร์ ND32, ND64, ND128 ใช้ได้ดีกับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่ให้อารมณ์แบบภาพยนต์
ด้วยข้อจำกัดของกฎ 180 ดีกรี และการถ่ายให้มีความยืดหยุ่นสนุกสนานมากขึ้นในการถ่ายภาพยนต์หรือถ่ายวิดีโอ ใช้ฟิลเตอร์สำหรับแสงมากเหล่านี้เพื่อให้ควบคุมแสงได้ดีขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่ออกเป็นแนวซิเนเมติกหรืออารมณ์ภาพยนต์มากขึ้น
ฟิลเตอร์ ND32 - ND128 นั้นยอดเยี่ยมสำหรับอะไรบ้าง
โดยสรุป ฟิลเตอร์ ND32, ND64 และ ND128 เหมาะสำหรับ
- การถ่ายภาพทุกชนิดที่ถ่ายในสภาพแสงสว่างปกติหรือค่อนข้างมาก
- ภาพโมชั่นเบลอที่ใช้ความไวแสงต่ำใน สภาพแสงสว่างปกติหรือค่อนข้างมาก
- ภาพที่ระยะชัดลึกน้อย (หรือบางคนก็เรียกว่า ระยะชัดตื้นมาก) ในสภาพแสงสว่างปกติหรือค่อนข้างมาก
- วิดีโอที่มีความเคลื่อนไหวดูเป็นอารมณ์ภาพยนต์ที่ถ่ายในสภาพแสงปกติหรือค่อนข้างมาก
ถ้าแสงจ้ามาก คิดถึงฟิลเตอร์ ND256, ND512, ND1000, ND10000
เมื่อคุณต้องการถ่ายภาพเปิดรับแสงนานในแสงที่สว่างมาก หรือลดแสงที่จัดจ้ามากให้มีความยืดหยุ่นในการถ่ายมากขึ้น ตั้งค่าปรับเปลี่ยนการรับแสงได้หลายรูปแบบขึ้น คุณต้องการฟิลเตอร์ ND ที่มีความเข้มแบบสูงมาก ฟิลเตอร์ ND256, ND512 และ ND1000 ถูกสร้างขึ้นสำหรับการเปิดรับแสงนานในแจ้งที่จัดจ้ามาก และสามารถใช้เพื่อลดแสงที่รุนแรงมากก็ยังได้ เพราะมันลดแสงได้ถึง 8, 9 และ 10 สต็อป นั่นเอง
ซ้าย ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND256 กลาง ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND512 ขวา ถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND10000
ด้วยฟิลเตอร์ ND ที่มีความเข้มสูงมากเหล่านี้ คุณสามารถถ่ายภาพที่มีเอฟเฟ็คต์แบบโมชั่นเบลอได้ ด้วยการเปิดรับแสงยาวนานเป็นพิเศษทั้งที่มีแสงค่อนข้างสว่างมาก ฟิลเตอร์กลุ่มนี้ทำให้คุณสามารถใช้ความไวชัตเตอร์ได้ยาวนานถึง 30 วินาทีหรือนานกว่านั้น ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพแนว Landscape อยู่ในทะเลทรายที่สวยงามในวันที่แดดเปรี้ยง และต้องการที่จะถ่ายภาพให้ก้อนเมฆดูเบลอแบบมีความเคลื่อนไหว คุณต้องการการบล็อกแสงจำนวนมากที่จะเข้าสู่กล้อง เพื่อให้คุณสามารถใช้ความไวชัตเตอร์ได้ต่ำมาก เช่น ประมาณ 15 วินาที เป็นต้น
ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพโมชั่นเบลอในสภาพแสงเบื้องต้นที่วัดออกมาแล้ว ค่าแสงถูกต้องพอดีคือ ISO100 รูรับแสง f/22 และความไวชัตเตอร์อยู่ที่ 1/60 คุณสามารถใช้ฟิลเตอร์ ND1000 ของเราเพื่อลดความไวชัตเตอร์ของคุณให้เป็น 15 วินาทีได้ เพื่อให้ได้เอฟเฟ็คต์เมฆกำลังไหลเคลื่อนที่ ความแตกต่างของความเคลื่อนไหวระหว่าง 1/60 และ 15 วินาที นั้นให้อารมณ์ภาพที่แตกต่างกันมาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายในสภาพแสงจ้าถ้าไม่มีฟิลเตอร์ ND
ถ่ายภาพเปิดรูรับแสงนานในสภาพแสงจ้ามาก ใช้ฟิลเตอร์ ND1000
กำหนดความชัดลึกที่ต้องการได้แม้ในแสงสว่างจ้า
ลองคิดถึงวันที่แสงอาทิตย์สว่างจ้าท่ามกลางหิมะ, ธารน้ำแข็ง หรือผืนทราย การลดแสงลงไปให้ได้อีกสัก 8, 9 หรือ 10 สต็อปเป็นเรื่องสำคัญ ฟิลเตอร์ ND1000 ปิดกั้นแสงได้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ก่อนจะเข้าสู่กล้องของคุณ ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการถ่ายภาพแนวเปิดรับแสงนาน แสงจะแรงแค่ไหนแต่คุณยังคงสามารถใช้งานฟิลเตอร์ ND กลุ่มนี้ได้สำหรับเปิดรูรับแสงของคุณให้กว้างขึ้น เพื่อระยะชัดลึกที่น้อยลงในสภาพแสงที่จ้ามาก
ภาพตัวอย่างวิธีที่ Chiara Zonca, Urth ambassador ใช้ฟิลเตอร์ ND1000 สำหรับภาพชัดลึกแคบในทะเลทรายแสงจ้า
ถ่ายภาพระยะชัดลึกน้อยในสภาพแสงจ้าได้ง่ายๆ ด้วยฟิลเตอร์ ND1000
ฟิลเตอร์ ND256 - ND1000 นั้นยอดเยี่ยมสำหรับอะไรบ้าง
โดยสรุปฟิลเตอร์ ND256, ND512, ND1000 และ ND10000 ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับ
- ถ่ายภาพเปิดรับแสงนานในที่มีแสงจ้ามาก
- ถ่ายภาพเปิดรับแสงนานพิเศษในที่มีแสงจ้ามาก
- ถ่ายภาพให้มีระยะชัดลึกน้อยในที่มีแสงจ้ามาก
สร้างสรรค์สิ่งใหม่กับฟิลเตอร์ ND
ฟิลเตอร์ ND เป็นอุปกรณ์อันน่าทึ่งที่คุณต้องมีติดไว้ในชุดเครื่องมือถ่ายภาพ ใช้ชาร์ตที่อยู่ในคู่มือนี้เพื่อให้เข้าใจค่าและการใช้งานดียิ่งขึ้นว่าฟิลเตอร์ ND แต่ละเบอร์สร้างเอฟเฟ็คต์อะไรได้บ้าง
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นกับฟิลเตอร์เบอร์ไหนหรือตัวไหนดี ฟิลเตอร์ Variable ND หรือ ND แบบปรับลดระดับค่าแสงได้หลายระดับในตัวเดียวกัน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเรียนรู้เกี่ยวกับจำนวนสต็อปที่แตกต่างกัน ฟิลเตอร์ชนิดนี้ให้คุณมีทางเลือกปรับระดับการบล็อกแสงได้หลายค่าในฟิลเตอร์ตัวเดียว
ภาพประกอบบทความถ่ายด้วยฟิลเตอร์ ND คุณภาพสูงจาก URTH
สนใจซื้อฟิลเตอร์ ND ของเอิร์ธจากตัวแทนในประเทศไทย ร่วมปลูกต้นไม้รักษ์โลก 5 ต้นกับผลิตภัณฑ์ URTH ทุกๆ ชิ้นที่คุณซื้อ ได้ที่
แฟนเพจ https://www.facebook.com/GearPhotoVideo
ร้านใน Shopee https://shopee.co.th/photovideogear
โทรศัพท์088 669 3993
Line ID : @digitalstock
E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
บทความต้นฉบับ https://urth.co/magazine/buyers-guide-nd-filters