คำว่า Lightbox ตาม ความหมายเดิมในศัพท์ของวงการถ่ายภาพ หมายถึง กล่องไฟสำหรับดูภาพจากฟิล์มชนิดโปร่งแสง เช่น ฟิล์มสไลด์ เป็นต้น ในสมัยก่อนยุคดิจิตอล บรรดาช่างภาพมืออาชีพและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับภาพ เช่น สำนักพิมพ์ นักออกแบบ เป็นต้น จะใช้ฟิล์มสไลด์เป็นมาตรฐานสำหรับงานที่ต้องการคุณภาพสูง เวลาช่างภาพถ่ายภาพมาแล้ว เวลาคัดเลือกภาพ ก็ต้องดูในสถานที่ที่มีแหล่งกำเนิดแสงอยู่ด้านหลัง เพื่อให้สามารถเห็นภาพที่ปรากฏในสไลด์ได้ชัดเจน
ทีนี้การดูภาพในระดับมืออาชีพ จะต้องระวังภาพมีสีผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง เมื่อดูด้วยแหล่งกำเนิดแสงที่มีอุณหภูมิสีแตกต่างกัน เช่น เอาภาพสไลด์ภาพหนึ่งไปส่องดูกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ก็จะได้สีแบบหนึ่ง พอเอาไปส่องดูกับหลอดไฟทังสเตนก็จะได้สีอีกแบบหนึ่ง ส่องดูกับแสงเทียนก็ได้สีอีกแบบหนึ่ง ทำให้มีโอกาสดูภาพผิดพลาดได้ และการต้องเอาสไลด์ไปนั่งก้ม ๆ เงย ๆ ส่องกับแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติก็ดูไม่สะดวกเอาเสียเลย จึงมีการประดิษฐ์กล่องที่บรรจุไฟซึ่งมีอุณหภูมิแบบแสงธรรมชาติ คือประมาณ 5,000 – 6,000 K หรือ เคลวิน (การอ่านค่าอุณหภูมิแสงที่ถูก ต้องอ่านว่า เคลวิน เฉย ๆ ครับ ไม่ใช่ องศาเคลวิน) โดย ด้านบนมีแผ่นกระจกฝ้าสีขาวไว้วางแผ่นสไลด์ โดยมีทั้งรูปแบบกล่องที่พกพาหรือยกไปไหนมาไหนได้ และแบบโต๊ะถาวรสำหรับงานสตูดิโอหรือสำนักงาน เรียกกล่องไฟนี้ว่า Lightbox
ในยุคดิจิตอล กล่องไฟของพวกเราก็คือ ไฟ Backlight หรือ ไม่ก็ไฟจากหลอดภาพของจอคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องไฟแบบเก่าอีกต่อไปแล้ว แต่คำศัพท์นี้ก็ได้ถูกนำมาใช้กับไมโครสต็อกด้วยทุกแห่ง เราจะเห็นว่า เมื่อเราคลิกเข้าไปดูภาพใด จะมีเช็คบ๊อกซ์ให้เราติ๊กเลือกพร้อมข้อความว่า Add to Lightbox หรือภาพสวย ๆ บางภาพก็จะมีข้อความกำกับว่า Also in 3 Lightboxes อะไรทำนองนี้ บางท่านก็สงสัยว่า เจ้า Lightbox ในไมโครสต็อกนี้ หมายถึงอะไรผมขออธิบายดังนี้ครับ
ตามปกติ เมื่อลูกค้าเข้าไปค้นหาภาพของเรา บางครั้งก็ชอบภาพใดภาพหนึ่งแล้ว แต่ว่ายังไม่ตัดสินใจดาวน์โหลด เพราะอยากจะดูภาพอื่นเปรียบเทียบก่อน ลูกค้าก็จะสร้าง Lightbox ขึ้นมาเพื่อเก็บรวมรวมภาพที่หมายตาไว้ เช่น เข้ามาค้นหาภาพรถไฟ ก็จะสร้าง Lightbox ชื่อ Train ขึ้นมา แล้วพอเจอภาพรถไฟที่ชอบ ก็จะติ๊กที่ช่อง Add to Lightbox ภาพนั้นก็จะเข้าไปรวมอยู่ใน Lightbox ที่ชื่อ Train พอเลือกจนพอใจแล้ว ก็คลิกที่ชื่อ Lightbox ที่ ได้สร้างไว้ ก็จะมีภาพรถไฟล้วน ๆ ที่เลือกไว้มาคัดอีกที ภาพไหนไม่ถูกใจก็ติ๊กเครื่องหมายถูกออกเสีย ก็จะเหลือเฉพาะภาพที่ต้องการดาวน์โหลดจริง ๆ เท่านั้น
ประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Lightbox ก็คือ ลูกค้าที่ใช้งานภาพหลาย ๆ ประเภทเป็นประจำ มักจะสร้าง Lightbox ไว้หลาย ๆ กล่อง โดยแยกประเภทไว้ เมื่อค้นหาภาพ เจอภาพที่ถูกใจก็ซึ่งคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้วันหลัง ก็จะเอาไปใส่ Lightbox ไว้ก่อน เช่น นักออกแบบตกแต่งภายใน สร้าง Lightbox ไว้ในชื่อต่าง ๆ เช่น Chinese House สำหรับเก็บภาพบ้านสไตล์จีน Thai House สำหรับเก็บภาพบ้านสไตล์ไทย Modern House สำหรับเก็บภาพบ้านสมัยใหม่ เป็นต้น แล้วก็จะหาภาพมาแยกใส่ไว้เรื่อย ๆ เมื่อใดที่ต้องการใช้ภาพประเภทใดแบบรีบด่วน ก็สามารถเลือกจาก Lightbox ของตัวเองที่สร้างไว้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาจากภาพรวม ๆ เหมือนเดิม ซึ่งจะเสียเวลามาก
ดังนั้น ในฐานะช่างภาพสต็อก ถ้าเราคลิกเข้าไปดูภาพของเราแล้ว มีคำว่า 2 Lighboxes หรือ 4 Lightboxes ทำนองนี้อยู่ใต้ภาพของเรา ก็แปลว่า มีลูกค้าสนใจภาพของเราแล้ว แม้ยังไม่ได้ดาวน์โหลดในตอนนี้ แต่ก็ได้เก็บใส่ Lightbox ไว้แล้ว ภาพก็จะมีโอกาสขายสูงขึ้น และภาพที่ได้เข้า Lightbox ของลูกค้าคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน ก็มักจะเป็นภาพที่ลูกค้าคนอื่น ๆ สนใจเป็นพิเศษเช่นกัน